+_+ lKevin lKeegan +_+

ชื่อ : Kevin Keegan
ปีที่เล่นให้ลิเวอร์พูล : 1971 to 1977
ตำแหน่ง : Forward
วันเกิด : 14/2/1951
สถานที่เกิด : Armthorpe
ย้ายมาจาก : Scunthorpe United (พฤษภาคม 1971)
จำนวนนัด : 323
จำนวนประตู : 100
เกียรติยศ : First Division Championship (1972/73, 1975/76, 1976/77), European Cup (1977), FA Cup (1974), UEFA Cup (1973, 1976), Charity Shield (1974, 1976)
        เควิน คีแกน ซุปเปอร์สตาร์ของยุค 70’s เป็นกำลังในเกมรุกที่ช่วยให้ลิเวอร์พูลประสบความสำเร็จในยุคที่รุ่งโรจน์ในประวัติศาสตร์ของถิ่นแอนฟิลด์ เขาย้ายทีมมาจากลีกที่ต่ำกว่าในปี 1971 ด้วยค่าตัวเพียง 35,000 ปอนด์ การย้ายออกในช่วงซัมเมอร์ปี 1977 อาจทิ้งความขมขื่นไว้ให้ แต่ไม่มีใครจะปฏิเสธความเป็นตำนานที่แท้จริงของสโมสรได้
        ในช่วงเวลาหกปีที่เขาสวมเสื้อสีแดงของลิเวอร์พูล จากนักเตะใหม่ที่ไม่มีใครรู้จัก คีแกนได้กลายเป็นดาวเตะระดับชาติที่มีชื่อเสียง เหมือนกับไมเคิล โอเว่นในอีกสองทศวรรษถัดมา เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่ฮีโร่ของชาวเดอะค็อป แต่เป็นโกลเด้นบอยของวงการฟุตบอลอังกฤษ และเป็นผู้เล่นที่แบกรับความหวังของชาติเอาไว้ มันคงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่วันนึงเขาจะต้องเดินจากไป แม้ว่าการตัดสินใจของเขาจะไม่ค่อยเป็นที่เห็นด้วย แต่เขาก็สามารถมองย้อนกลับไปและภาคภูมิใจในความสำเร็จที่ได้รับในตอนที่มีนกลิเวอร์เบิร์ดติดอยู่บนอกเขา 100 ประตู, 3 ถ้วยแชมป์ลีก, ถ้วยยูโรเปี้ยนคัพ, ถ้วยเอฟเอคัพ, และ 2 ถ้วยยูฟ่าคัพ รวมทั้งความทรงจำอันวิเศษอย่างมากมาย หมายความว่าเขาจะเป็นที่นับถือจากเหล่าแฟนๆของหงส์แดงตลอดไป
        ‘ใช้กำลังขโมยมา’ เป็นการอธิบายว่าบิล แชงค์ลี่ย์ได้ตัวคีแกนมาจากสคันธอร์ปได้อย่างไร แม้ว่าเขาจะถูกดึงตัวมาเพื่อเป็นตัวแทนเอียน คัลลาแกนในแผงกองกลาง แต่คีแกนก็ทำให้ประทับใจกับบทบาทในเกมรุกได้อย่างรวดเร็วในช่วงปรีซีซั่น จนกระทั่งได้ลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างน่าเซอร์ไพรส์ตั้งแต่เกมแรกในบ้านกับน็อตติ้งแฮมฟอร์เรสต์ – ซึ่งเขาก็สามารถใช้โอกาสนั้นทำประตูต่อหน้าเดอะค็อปได้แค่ในนาทีที่ 12 นับจากนั้น ‘KK’ ก็ไม่ได้หันหลังกลับ และก็สามารถจับคู่กับจอห์น โตแช็คได้ราวกับมีโทรจิตถึงกัน ซึ่งก็กลายเป็นอาวุธร้ายแรงที่สุดในสนาม
        เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง กระตือรือร้น และมุ่งมั่นร้อยเปอร์เซนต์เพื่อเดอะค็อป คีแกนเกิดมาเพื่อเป็นผู้ชนะ ผู้ซึ่งทำให้ชุดที่ยอดเยี่ยมชุดที่สองของแชงค์จุดประกายมุ่งเข้าไปสู่ความสำเร็จอันมากมาย ฤดูกาลแรกของเขาอาจจะจบลงด้วยมือเปล่า แต่รากฐานก็ได้ถูกวางไว้เป็นอย่างดี และในปี 1972/73 คีแกนก็ช่วยให้หงส์แดงได้ดับเบิ้ลแชมป์ทั้งในลีกและในยุโรปได้อย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน เป็นดาวยิงสูงสุดของถิ่นแอนฟิลด์ รวมทั้งสองประตูสุดสำคัญในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าคัพนัดแรกกับโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค เขาทำได้อีกสองประตูให้หงส์แดงประสบความสำเร็จในเอฟเอคัพในปีถัดมาในเกมกับนิวคาสเซิ่ล ซึ่งเป็นสโมสรที่มีบทบาทกับชีวิตเขาอย่างมากในอนาคต นักเตะหมายเลข 7 ผู้นี้ทำประตูก่อนหน้านี้ไปแล้ว 4 ประตูในเส้นทางสู่ทวินทาวเวอร์ในฤดูกาลนั้น รวมทั้งลูกกระดกข้ามหัวปีเตอร์ ชิลตันของเลสเตอร์ในรอบรองชนะเลิศนัดรีเพลย์ที่วิลล่าปาร์ค
        เร็ว มีทักษะที่ดี และกล้าเล่น เขานั้นเป็นปัญหาสำหรับเหล่ากองหลังคู่ต่อสู้ รวมทั้งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นนักเตะที่เล่นเกมรุกได้ดีที่สุดในเกาะอังกฤษ แม้ว่าจะมีความสูงเพียงแค่ 5 ฟุต 8 นิ้ว เขานั้นสามารถที่จะต่อสู้ลูกกลางอากาศได้ดีจนน่าประหลาดใจ และเขาก็ยังมีความสามารถในการชกต่อยอย่างที่บิลลี่ เบรมเนอร์ กัปตันของลีดส์ได้รับรุ้ เขาถูกไล่ออกจากสนามจากการแลกหมัดกับเบรมเนอร์และถอดเสื้อออกตอนเดินออกจากสนามในเกมชาริตี้ชิลด์ปี 1974 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เตะกันที่เวมบลี่ย์ คีแกนถูกแบนถึง 11 เกมแต่มันก็ทำให้เขามีความแน่วแน่มากขึ้นกว่าที่เคยหลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้
        โดยส่วนตัวแล้วฤดูกาล 1975/76 เป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดของเขาในฐานะนักเตะลิเวอร์พูล โดยสามารถช่วยให้ถ้วยแชมป์ดิวิชั่นหนึ่งและยูฟ่าคัพเข้ามาอยู่ในตู้โชว์ในแอนฟิลด์ได้สำเร็จ ความพยายามของเขาได้รับการตอบแทนโดยได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปี แต่มันก็ทำให้เขาได้รับความสนใจจากสโมสรในต่างแดน ในตอนก่อนเริ่มฤดูกาล 1976/77 สิ่งที่ชาวลิเวอร์พัดเลี่ยนกลัวก็กลายเป็นความจริง เมื่อคีแกนประกาศความตั้งใจที่จะออกจากสโมสรและย้ายไปอยู่กับฮัมบูร์กในบุนเดสลีก้าในอีก 12 เดือน
        การตัดสินใจของเขาทำให้เกิดความรู้สึกรังเกียจจากบางส่วนของเดอะค็อป และความชื่นชอบในตัวเขาก็ตกลงอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่เดือนเนื่องจากแฟนบางคนเริ่มสงสัยในความจงรักภักดีของเขา ต้องยกเครดิตให้กับเขาที่เขายังทำงานอย่างหนักและก็ช่วยให้ลิเวอร์พูลคว้ายูโรเปี้ยนคัพมาได้สำเร็จหลังจากพยายามมาเป็นเวลา 13 ปี มันอาจจะไม่ใช่ฤดูกาลที่สวยหรูนักสำหรับเขาแต่มันก็จบลงด้วยความสำเร็จอย่างสูงสุดในกรุงโรม สี่วันหลังจากที่ตกเป็นแพะรับบาปจากบางคนจากเกมเอฟเอคัพนัดชิงชนะเลิศที่พ่ายแพ้ให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ซึ่งทำลายความฝันที่จะได้ทริปเปิ้ลแชมป์ลง คีแกนสามารถดึงความรักตลอดกาลของแฟนๆได้จากผลงานอันน่าอัศจรรย์ในเกมกับโบรุสเซียมึนเช่นกลัดบัค
        ในค่ำคืนในสนามโอลิมปิกสเตเดี้ยม การวิ่งอย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อย และการควบคุมบอลจนทำให้แบร์ตี้ โฟล์ก กองหลังทีมชาติเยอรมันที่มีประสบการณ์สูงไม่มีทางเลือกนอกจากทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษซึ่งก็กลายมาเป็นประตูชัย คงจะไม่มีฉากปิดม่านสำหรับดาวเตะของลิเวอร์พูลแห่งยุค 70’s ผู้นี้ได้ดีกว่านี้อีกแล้ว
        คีแกนอาจจะได้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรปอีกสองครั้งในขณะที่เล่นอยู่ในเยอรมัน แต่เป็นถิ่นแอนฟิลด์ที่เขาได้ประสบความสำเร็จมากที่สุดและก็เป็นเวลาที่ดีที่สุดสำหรับเขา หนึ่งในลูกรักของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล จะมีที่พิเศษในหัวใจของเหล่าเดอะค็อปสำหรับคีแกนอยู่เสมอ ผู้เป็นสัญลักษณ์ของยุคซึ่งไม่มีแฟนลิเวอร์พูลคนไหนที่เคยได้เห็นจะสามารถลืมลงได้
ย้ายออก : SV Hamburg (กรกฎาคม 1977)
สิ่งที่สร้างชื่อเสียง : ทำสองประตูนิวคาสเซิ่ลในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพในปี 1974
คุณรู้หรือไม่ว่า? : ลิเวอร์พูลมีออพชั่นในการซื้อคีแกนกลับได้เมื่อเขาจะออกจากฮัมบูร์ก แต่บ็อบ เพสลี่ย์เลือกที่จะไม่ใช้ออพชั่นนั้น และเขาเลยย้ายไปเซาท์แธมป์ตันแทน
ตอนนี้อยู่ที่ไหน? : ไม่ค่อยได้เห็นหรือได้ยินจากเขานับตั้งแต่ออกจากการเป็นผู้จัดการทีมของแมนเชสเตอร์ซิตี้ในฤดูกาล 2004/05 แต่ล่าสุดตกเป็นข่าวกันตำแหน่งผู้จัดการทีมที่ว่างอยู่ของดอนคาสเตอร์
ไบรอัน ฮอลล์พูดถึงเควิน คีแกน : “เควินเป็นนักฟุตบอลที่งดงาม สำหรับผม ผลงานของเขาที่มีกับทีมในยุค 70’s นั้นมันเป็นปรากฏการณ์เลยทีเดียว สื่อต่างๆพยายามทำให้เขาเป็นซุปเปอร์สตาร์ แต่เขาก็เป็นนักเตะที่เล่นเพื่อทีม และเมื่อเขาสวมเสื้อสีแดงเขาทำตัวเป็นเพียงแค่คนหนึ่งในทีมเท่านั้น ผมคิดว่าเขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก และก็เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมมากอีกด้วย”

โดย...StevieXabiDidiMomo